สู่ฝันนิรันดร

เจ้าสัวเจิมศักดิ์ นักธุรกิจสูงวัย ได้รับภารกิจสืบทอดมาแต่บรรพบุรุษในการตามหา “เฟื่อง” หญิงสาวจากบันทึกที่เขียนขึ้นในสมัยกรุงธนบุรี กระทั่งได้พบช่างภาพสาวผู้มีใบหน้าเหมือนกับภาพหญิงสาวในบันทึกโบราณเล่มนั้น แถมยังชื่อ “พัชร์เฟื่อง” ซึ่งสอดคล้องกับชื่อหญิงสาวที่กำลังตามหาอีกด้วย นับตั้งแต่พบกับเจ้าสัว พัชร์เฟื่องได้เจอเหตุการณ์ประหลาดเรื่อยมา นั่นคือ เธอเริ่มฝันถึงชายในยุคอดีตคนหนึ่งซึ่งมักเรียกเธอในความฝันว่า “นางเฟื่อง” ต่อมา เจ้าสัวได้ออกอุบายนำพัชร์เฟื่องไปชมเรือนไทยพร้อมกับนำภาพวาดของบรรพบุรุษ “หลวงพิพิธราชเสนา” มาให้ดู แล้วเธอก็ต้องตะลึงเมื่อพบว่า ภาพชายผู้นี้ก็คือคนที่เธอฝันถึงนั่นเอง พร้อมกันนั้นเจ้าสัวได้มอบจี้หินสีดำและกำชับให้ท่องคาถาบทหนึ่งกำกับอย่าได้ขาด วันหนึ่งพัชร์เฟื่องได้ยินเสียงสวดคาถา “โอมพะพะ โลกะระ ทวารัง” ตลอดเวลา ด้วยนิสัยขี้เล่น หญิงสาวสวดบทสวดกลับหลังนั้น...ให้ประสานเป็นเสียงเดียวกันกับบทสวดที่ได้ยิน เกินความคิดใดทั้งมวล สะพานทั้งสะพานก็สว่างด้วยแสงจากฟ้าดังสนั่นหวั่นไหวสะท้านไปทั่วทั้งบริเวณ ร่างของหญิงสาวหายไปในบัดดลอย่างไร้ร่องรอย กระทั่งรู้สึกตัวอีกครั้งหนึ่ง เธอค้นพบว่าตัวเองอยู่ในยุคสมัยกรุงธนบุรีปี 2312 ทันใดนั้น ชายโบราณผู้หนึ่งได้เข้ามากระชากร่างของเธอเข้าสู่อ้อมแขน...โครงหน้านั้นชัดเจนเกินจะพรรณณา ชายผู้นั้น...ชายโบราณที่เธอหลงใหลในรูป “หลวงพิพิธราชเสนา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น